ชมความงดงาม “พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล” & พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่



“พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล” & พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่

           “พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล” องค์สีน้ำตาล ประดิษฐานอยู่บนที่สูงสุดในพระราชอาณาจักรไทย เคียงคู่กับ “พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ” องค์สีม่วงอมชมพู ตั้งอยู่บนกิโลเมตรที่ 41.5 ทางด้านซ้ายมือ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล สร้างถวาย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ.2530 และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ สร้างถวาย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ” เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ.2535

          เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่พระมหาสถูปเจดีย์อันยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดินองค์นี้ ได้ประดิษฐานอย่างสง่างาม เป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย ณ ยอดดอยอินทนนท์ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือสูงเกือบ 8,000 ฟุต และมีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี

พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล

          ที่มาของพระมหาสถูปเจดีย์นั้น เนื่องด้วยในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 เป็นปีเดียวกันกับที่กองทัพอากาศ มีอายุครบ 72 ปี ดังนั้น กองทัพอากาศจึงได้เห็นพ้องกันว่า สมควรร่วมใจบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างอนุสารณียวัตถุขึ้นเป็นที่ระลึกวาระสำคัญของกองทัพอากาศ และเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลในศุภวาระมงคลนี้

          จึงได้จัดสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยเหตุผลว่า คงจะไม่มีสิ่งอื่นใดเทียบเท่าการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กอปรทั้งปวงอาณาประชาราษฎร์ต่างเห็นประจักษ์แจ้งว่า นอกจากจะทรงดำรงฐานะแห่งองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก โดยเฉพาะทรงช่วยอภิบาลบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพรยิ่งกว่าในกาลรัชสมัยใดแล้ว ยังทรงเจริญพระราชศรัทธาเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดอีกด้วย ทั้งไม่แต่การถวายพุทธสักการะเป็นอามิสบูชา แม้การปฏิบัติบูชาก็ทรงมีพระราชศรัทธาบำเพ็ญภาวนาให้ทรงบรรลุและสำเร็จได้จริงจัง

 

          เหตุที่เลือกดอยอินทนนท์ ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพระมหาธรรมิกราชา ทรงมีพระบรมเดชานุภาพ และพระบารมีแผ่ไพศาลสุดแผ่นดินและจดแผ่นฟ้า ดังนั้น สถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์นี้ จึงควรสถิตอยู่ ณ จุดที่สูงสุดบนผืนแผ่นดินไทย เพื่อให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณ พระมหาเมตตาธิคุณ และพระมหาบริสุทธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้สถิตอยู่สูงสุด และในดวงใจของปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่า

         “พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล” มีความหมายว่า “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน” มีความสูง 60 เมตร เพื่อเป็นนิมิตรหมายการสร้างเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา องค์พระมหาสถูปเจดีย์มีสัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม มีลวดลายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง แทนพระบารมี 3 ขั้นตอนที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญ อันประกอบด้วย บารมีขั้นแรก 10 ขั้น อุปบารมี 10 ขั้น และปรมัตถบารมี 10 ขั้น รวมเป็น บารมี 30 ทัศ

          ส่วนที่เหนือรูปทรงระฆัง เป็นรูปบัวหงาย 8 กลีบ หมายถึงมรรคมีองค์ 8 และส่วนบนสุดขององค์พระมหาสถูปเจดีย์ มีรูปทรงเป็นยอดปลี ซึ่งหมายถึงการตรัสรู้สู่พระนิพพาน และที่ปลายยอดปลีกั้นด้วยฉัตรโลหะสีเงิน 9 ชั้น ฉลุลายสีเงิน มียอดเป็นสีทอง อันหมายถึง อุดมมงคลอันสูงสุด และเป็นร่มเกล้าที่พระมหากษัตริยาธิราช รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “นวราชบพิตร” ถวายเป็นพุทธบูชา

          ส่วนพื้นฐานอันเป็นที่ตั้งขององค์พระมหาสถูปเจดีย์ เป็นลานประทักษิณ 2 ชั้น ซึ่งมีซุ้มภาพปั้นด้วยดินเผาด่านเกวียน เป็นศิลปะแบบนูนต่ำ ภาพทศชาติชาดก ภาพธรรมชาติของป่าหิมพานต์ และสัตว์ในป่าหิมพานต์ และที่หน้าบันซุ้มทางเข้าภายในองค์พระมหาสถูปประดิษฐาน พระปรมาภิไธย ย่อ ภ.ป.ร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ

          ภายในองค์พระมหาสถูปเจดีย์ เป็นห้องโถงโล่งทรง 8 เหลี่ยม เพดานสูง ตรงกลางห้องประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร จำหลักด้วยหินแกรนิต ส่วนผนังห้องโถงประดับด้วยภาพศิลาจำหลัก แบบนูนต่ำ 4 ภาพใหญ่ แสดงพุทธประวัติ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน สำหรับพระพุทธรูปปางประทานพรนี้ มีขนาดหน้าตักกว้าง 60 นิ้ว ตามจำนวนพระชนมพรรษา สูง 87 นิ้ว หนัก 6 ตัน โดยแกะสลักจากหินแกรนิตสีเขียวอมเทาของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งกองทัพอากาศได้ว่าจ้างช่างแกะสลักชาวอินโดนีเซีย แกะสลักพระพุทธรูปปางประทานพรองค์นี้

          การแกะสลักพระพุทธรูปแล้วเสร็จ และทำพิธีรับมอบเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2530 (ตรงกับวันเพ็ญวิสาขบูชา) และได้อัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์” อันมีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระบรมศาสดา สร้างเป็นอนุสรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระชนมพรรษา 60 พรรษา”

       ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้อัญเชิญประกอบพิธีพุทธาภิเษกเบิกพระเนตร พร้อมกับพระพุทธรูปจำลองเนื้อโลหะหน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน 999 องค์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2530

       ในส่วนของพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานภายในยอดปลีพระมหาสถูปเจดีย์นี้ กองทัพอากาศได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวส่วนหนึ่ง รับจากพระสังฆมหานายกะ สิริมัลวัตตะ อนันดา วัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกาส่วนหนึ่ง และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดไว้ในเจดีย์หินอ่อน และพระราชทานให้พลอากาศเอกประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ในขณะนั้น) ได้นำไปประดิษฐาน ณ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล

          พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลองค์นี้ ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2529 เวลา 10.19 นาฬิกา โดยมี พลอากาศเอกประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ในขณะนั้น) เป็นประธานก่อสร้าง ต่อมา พลอากาศเอกวรนาถ อภิจารี เป็นกรรมการอำนวยการสร้าง, พล.อ.ท.เกริกชัย หาญสงคราม เป็นประธานอนุกรรมการควบคุมการก่อสร้างและตกแต่ง, อาจารย์ไขศรี ตันศิริ และนายสันติ ชยสมบัติ เป็นสถาปนิก, นายกัญจนจักก์ สถาปนสุต เป็นวิศวกร ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงรับและทรงเปิดพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล รวมระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 360 วัน สิ้นเงินค่าใช้จ่ายรวม 45 ล้านบาทเศษ

          พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนี ถือเป็นพระมหาสถูปเจดีย์องค์แรกที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือบนยอดดอยอินทนนท์ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เคียงคู่กับ “พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ” ซึ่งกองทัพอากาศจัดสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี พ.ศ.2532

“พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ”

          

          ในปีพุทธศักราช 2535 อันเป็นปีมิ่งมหามงคลที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ กองทัพอากาศจึงได้ดำริที่จะก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ไว้บนดอยอินทนนท์ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล และเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดังนั้น ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2532 กองทัพอากาศจึงได้เริ่มดำเนินการออกแบบและเตรียมพื้นที่ จนกระทั่งการก่อสร้างได้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2536

         “พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ” มีรูปทรง 12 เหลี่ยม แสดงความหมายถึงอัจฉริยธรรม 12 ประการ อันเกิดแก่พระนางสิริมหามายา พระพุทธมารดา มีระเบียงกว้างโดยรอบเป็น 2 ระดับ ความกว้างที่ระดับระเบียงล่าง 37 เมตร แสดงความหมายถึงโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ที่ขอบระเบียงแต่ละระดับมีซุ้มรูปกลีบบัวประดับอยู่ 6 ซุ้ม องค์พระมหาธาตุมีความสูงจากชานพักชั้นล่างถึงยอดปลี 55 เมตร

          สำหรับรูปลักษณ์ขององค์เจดีย์นั้น แสดงความหมายถึงโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ องค์เจดีย์ประดับโมเสกแก้วสีม่วงอมชมพูสีเดียวกันตลอดทั้งองค์ ที่ส่วนยอดขององค์เจดีย์เป็นยอดปลีล้อมด้วยกลีบดอกบัวตูม ประดับด้วยโมเสกแก้วสีทอง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กั้นด้วยฉัตรสีเงิน 9 ชั้น

        ที่ผนังด้านนอกขององค์พระมหาธาตุเจดีย์และซุ้มระเบียง ประดับด้วยภาพปั้นดินเผา เป็นเรื่องราวของพระภิกษุณี ผู้เป็นเอตทัคคะ, เรื่องราวของอุบาสิกา ผู้เป็นเอตทัคคะ และภาพสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น ส่วนที่ด้านบนของซุ้มประตูทั้ง 3 ด้าน มีพระนามาภิไธยย่อ สก. ประดิษฐานไว้

         ภายในเจดีย์เป็นโถงเพดานสูง มีพระพุทธรูปที่ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่บนแท่นกลางโถง เป็นพระพุทธรูปปางรำพึง ซึ่งเป็นพระประจำวันศุกร์ อันเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แกะสลักด้วยหินหยกขาว จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ขนาดความสูงเฉพาะองค์พระ 3 เมตร 20 เซนติเมตร ประทับยืนบนดอกบัว มีชายสังฆาฏิพาดอยู่บนบัลลังก์ หนักประมาณ 5 ตัน

          อาจกล่าวได้ว่า เป็นพระพุทธรูปหินหยกขาวที่มีขนาดใหญ่และงดงามที่สุดองค์หนึ่ง ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า “พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคล และทรงเจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ”

          ผนังตอนบนโถงประดับด้วยภาพพุทธประวัติ ทำด้วยโมเสกแก้วสี ซึ่งออกแบบการจัดภาพและสีด้วยคอมพิวเตอร์ สั่งทำพิเศษจากอิตาลี เป็นภาพแสดงเรื่องราวของพระนางสิริมหามายา, พระนางมหาปชาบดีโคตมี, พระนางยโสธราพิมพา และนางวิสาขามหาอุบาสิกา ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทในการส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาได้อุบัติขึ้นในโลก รวมทั้ง ได้ทะนุบำรุงให้มีการสืบทอดพระพุทธศาสนามาจนทุกวันนี้

          ส่วนผนังตอนล่างประดับด้วยภาพพระราชกรณียกิจที่สำคัญของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นภาพแบบผสมนูนต่ำและนูนสูง แกะสลักด้วยหินแกรนิตสีขาว

          โดยรวมแล้วรูปลักษณ์ของพระมหาธาตุเจดีย์ นั้นแสดงความหมายถึงองค์ประกอบที่ส่งเสริมให้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ส่วนการตกแต่งแสดงถึงบทบาทของสตรีที่มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนให้พระพุทธศาสนาอุบัติขึ้นในโลก สีสันและวัสดุที่ใช้ประดับทั้งภายในและภายนอกองค์เจดีย์

          ในวันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2535 ณ พระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศเอกเกษตร โรจนนิล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ในขณะนั้น) และคณะ เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ เพื่ออัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดปลีพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ทรงสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ และบรรจุลงพระกรัณฑ์ทองคำด้วยพระองค์เอง

          ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้อัญเชิญ “พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล” ขึ้นประดิษฐานเป็นพระประธานในพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริแล้ว ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเบิกพระเนตร เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2535 เวลา 09.09 นาฬิกา พร้อมกับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานบนยอดปลีองค์พระมหาธาตุเจดีย์นี้ด้วย

          พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริองค์นี้ ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2532 เวลา 12.29 นาฬิกา โดยมี พลอากาศเอกสมศักดิ์ กุศลาศัย เป็นประธานกรรมการอำนวยการสร้าง มีคณะผู้ออกแบบพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลชุดเดิมร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย

          ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2536 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงรับและทรงเปิดพระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งได้พระราชทานนามว่า “พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ” (อ่านว่า นะ-พะ-พน-พู-มิ-สิ-ริ) อันมีความหมายว่า “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน” รวมระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 900 วัน สิ้นเงินค่าใช้จ่ายรวม 135 ล้านบาท

         พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ เป็นหนึ่งในพระมหาสถูปเจดีย์ซึ่งประดิษฐานอยู่บนที่สูงที่สุดในพระราชอาณาจักรไทย เคียงคู่กับ “พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล” ซึ่งกองทัพอากาศจัดสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในมหามงคลเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2530 ณ ยอดดอยอินทนนท์ แห่งนี้

เครดิตข่าว winnews


ข่าวสารและกิจกรรม


ชมความงดงาม “พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล” & พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่


มองเชียงใหม่ผ่านกล้องคนจีน ---ส่องอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์


9 จุดเช็คอินไม่ควรพลาด! ..เส้นทางสู่ยอดดอยอินทนนท์


แหล่งท่องเที่ยวชมทะเลหมอก ดอกซากุระบาน สำราญใจใกล้ๆ บ้านที่เชียงใหม่


พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


ชมความงามพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


สวยงามตื่นตา สดร.ชวนชมทางช้างเผือกเหนือพระมหาธาตุนภเมทนีดล อินทนนท์


พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และ พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ


พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


กราบไหว้ พระมหาธาตุคู่พระบารมี เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ ดอยอินทนนท์


พระมหาธาตุ “นภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ”


พระมหาธาตุนภเมทนีดล,นภพลภูมิศิริ


ดอยอินทนนท์ แหล่งพืชพรรณหลากหลายชนิด


INFORMATION ข้อมูลท่องเที่ยว


ชมดอกไม้บานช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ "พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ"


ร.10 โปรดเกล้าฯ แล้ว “หลวงปู่ทอง” แห่งวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ขึ้นเป็น “พระพรหมมงคล”


อินทนนท์คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอก


พาชมฝูงแกะที่ซ่อนตัวอยู่บนดอยอินทนนท์ บรรยากาศราวกับอยู่เมืองนอก !!


กองทัพอากาศ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พร้อมดำเนินโครงการ “จิตอาสาน้อมดวงใจ ทำความดีถวายพ่อ”


คณะกรรมการบริหารงานพระมหาธาตุฯ ให้การต้อนรับอธิบดีกรมศิลปากรเพื่อร่วมประชุมกำหนดแนวทางการพัฒนาพระมหาธาตุฯ


ประกาศแจ้งปิดพื้นที่สวนบริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล


ไหว้ 2 พระธาตุ แวะเที่ยวน้ำตก


สัมผัสหนาวแรกของปี! กราบ 2 พระมหาธาตุแห่งราชา-ราชินีบนยอดอินทนนท์


นักเรียน ม.1 แสดงความเคารพพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


งานปรับปรุงทัศนียภาพ พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ กองทัพอากาศ เริ่มขึ้นแล้ว


กองทัพอากาศจัดพิธีบวงสรวงและเคลื่อนย้าย นพปฎลสุวรรณฉัตร


แถลงข่าวจัดกิจกรรม Air Force Run 2018 “Run to the Sky วิ่งเฉียดฟ้า”


กิจกรรม Air force run 2018 Run to the sky วิ่งเฉียดฟ้า


พิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประจำปี ๒๕๖๑


กรมช่างโยธาทหารอากาศ ทำความสะอาดองค์พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ


กองทัพอากาศ จัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อประดิษฐาน ณ พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ


กองทัพอากาศ จัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อประดิษฐาน ณ พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ


เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒


เชิญร่วมสนุกรับของรางวัลสุดพิเศษกับกิจกรรม กองทัพอากาศไทย Passport ทอ. 360 องศา


กองทัพอากาศ จัดพิธีมหาพุทธาภิเษก พระพุทธศาสดาประชานาถ ๐๒๐๒​๒๐๒๐ ณ​ สถานีรายงานดอยอินทนนท์


คณะกรรมการพระมหาธาตุ ฯ ร่วมมอบผ้าห่มเพื่อบรรเทาปัญหาภัยหนาว


วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี


กองทัพอากาศจัดพิธีบวงสรวงและยกเสาเอกหอพระพุทธศาสดาประชานารถ


พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ กองทัพอากาศ


ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานในพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ กองทัพอากาศ


พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ ชวนเที่ยวและชมทัศนียภาพ จากสกายวอร์ค


สถานีรายงานดอยอินทนนท์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุ


ให้การสนับสนุนสถาบันการศึกษาเข้าเยี่ยมชมและทัศนศึกษา


ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับราษฎร 4 หมู่บ้าน และบริจาคเงินให้กับพุทธอุทยาน บ้านแม่กลางหลวง


ประกาศปิดอุทยานฯ ดอยอินทนนท์


ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งในเขตอุทยานฯดอยอินทนนท์

สำนักงานพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

ตำบล บ้านหลวง อำเภอ จอมทอง เชียงใหม่ 50160
โทร.0643544868
ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ illusion.thai@gmail.com